เสน่ห์ของจังหวัดโออิตะ

อาหาร

ภูเขาและทะเลที่โอบล้อมจังหวัดโออิตะ เป็นปัจจัยก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหารการกิน ซึ่งจังหวัดโออิตะมีอาหารอร่อยหลากหลาย เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบชั้นหรูอย่างเช่น "เนื้อวัวโออิตะบุงโกะ" "เซกิอะจิ- เซกิซาบะ" (ซาชิมิปลาอะจิและซาชิมิปลาซาบะ) ไปจนถึงเมนูบ้านๆของขึ้นชื่อประจำโออิตะอาทิ "โทริเทน" และ "คาราอาเกะ"

เมนูเนื้อ

เนื้อวัวโออิตะบุงโกะ

ตัวแทนอาหารชั้นเลิศของจังหวัดโออิตะ ซึ่งลักษณะเด่นอยู่ที่ลายหินอ่อนที่กระจายอยู่ทั่วชิ้นเนื้อสีแดงสด ทำให้เนื้อมีความนุ่ม ฉ่ำ จนแทบละลายในปาก ซึ่งที่มาของความอร่อยล้ำนี้เกิดจากกรดโอเลอิก (กรดไขมันที่อยู่ในเนื้อวัว) ที่มีอยู่ในปริมาณมาก

ย่านอ.ทาเคตะ อ.บุงโกะโอโนะ ต.โคโคะโนะเอะ ต.คุซุ และอื่นๆ

โทริเทน (เทมปุระไก่)

อาหารพื้นเมืองยอดนิยม ทำจากเนื้อไก่คลุกแป้งเทมปุระแล้วนำไปทอด นิยมรับประทานคู่กับคาโบสึปองสึและมัสตาร์ด

ย่าน อ.โออิตะ อ.เบปปุ และอื่นๆ

คาราอาเกะ

ไม่ว่าเดินไปทางในเขตอ.นะคัทสึซึ่งได้ชื่อว่า "สรวงสวรรค์แห่งคาราอาเกะ" และอ.อุสะที่มีฉายาว่า "ศูนย์รวมร้านจำหน่ายคาราอาเกะโดยเฉพาะ" ท่านก็จะพบเห็นร้านจำหน่ายคาราอาเกะ ซึ่งแต่ละร้านมีการคิดค้นสูตรเฉพาะของตนเองขึ้นมา ให้แตกต่างจากสูตรดั้งเดิมที่หมักเนื้อไก่ในซอสโชยุผสมกระเทียมและขิง

ย่าน อ.นะคัทสึ อ.อุสะ

เมนูปลา

เซกิอะจิ-เซกิซาบะ (ซาชิมิปลาอะจิและซาชิมิปลาซาบะ)

เมนูปลาซาชิมิชั้นเลิศที่คนทั้งประเทศต่างใฝ่ฝันจะได้ลิ้มลองสักครั้ง ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่ความหวานในเนื้อปลา และไขมันที่กำลังเหมาะ นอกจากนี้การแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำบุงโกะที่เชี่ยวกรากยังเป็นปัจจัยช่วยให้เนื้อปลาแน่นเคี้ยวเพลิน

ย่าน อ.โออิตะ

เมนูปลาปักเป้า

ซาชิมิปลาปักเป้าญี่ปุ่นซึ่งจับได้จากเขตกระแสน้ำบุงโกะ เป็นอีกเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดโออิตะ เพราะใช้ปลาปักเป้าสดแล่เป็นชิ้นหนา ผิดกับที่อื่นซึ่งนิยมแล่บางๆ เนื้อแน่นรสหวานอร่อย เนื้อสีขาวใสดูแล้วไม่ต่างกับผลงานศิลปะเมื่อจัดเรียงลงบนจาน นอกจากรับประทานแบบซาชิมิแล้ว ยังนิยมปรุงเป็นคาราอาเกะ และทำข้าวต้ม

ย่านอ.โออิตะ อ.อุซุกิ

ปลาตาเดียว "ชิโระชิตะคะเร"

ปลาตาเดียวซึ่งเติบโตในแหล่งน้ำกร่อยใกล้กับซากปราสาทฮิจิที่มองลงไปเห็นอ่าวเบปปุ แม้เนื้อจะไม่ได้รสชาติเข้มข้นแต่ก็มีความหวานกำลังเหมาะ อีกทั้งยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นปลาชั้นเลิศประจำต.ฮิจิ ซึ่งปกติมีให้รับประทานตามร้านอาหารแทบทุกร้านในตำบล แต่ถ้าอยากลิ้มลองปลาชนิดนี้ในราคาสบายกระเป๋า ควรมาในช่วง "เทศกาลชิโระชิตะคะเร" เดือนพฤษภาคม

ย่าน ต.ฮิจิ

เมนูปลาฮาโมะ

ที่อ.นะคัทสึมีปลาฮาโมะให้ลิ้มลองตลอดทั้งปี โดยจุดเด่นของปลาฮาโมะของที่นี่คือรสหวานซึ่งแผ่กระจายไปทั่วปากยามเคี้ยว ส่วนวีธีการปรุงนั้นมีหลากหลายทั้งแบบดั้งเดิมและแบบเฉพาะของแต่ละร้าน

ย่านอ.นะคัทสึ อ.คิทสึกิ ต.ฮิจิ

เมนูปลาอายุ

หากพูดถึงต้นฤดูร้อนของฮิตะซึ่งมีสายน้ำสะอาดสมบูรณ์จนได้ชื่อว่า "เมืองแห่งสายน้ำ ฮิตะ" ต้องนึกถึงปลาอายุมาเป็นอันดับแรก โดยเมนูปลาอายุย่างและต้นเค็มจะมีให้ลิ้มลองตั้งแต่ฤดูร้อนจนถึงฤดูใบไม้ร่วง หรือจะชิมเมนูปลาอายุไปชมแม่น้ำมิคุมะไปที่ร้านฮิตะยานะยุ (กลางเดือนกรกฎาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน) ก็น่าสนใจไปอีกแบบ

ย่าน อ.ฮิตะ

กุ้งอิเสะ

ช่วงเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่เดือนกันยายนคือช่วง "เทศกาลกุ้งอิเสะ ฮิงะชิคิวชูอิเสะเอะบิไคโด" ซึ่งท่านจะได้อิ่มอร่อยกับกุ้งอิเสะสดๆ เนื้อแน่นหวานฉ่ำที่นำมาปรุงเป็นเมนูซาชิมิ (จำหน่ายระหว่างเดือนกันยายน - เดือนพฤษภาคม)

ย่าน อ.ไซคิ

ฮิวงะดง (ข้าวหน้าปลามากุโระ)

เมนูดงบุริที่ใช้ซาชิมิส่วนเนื้อแดงของปลาทูน่าคลุกเคล้าน้ำซอสงาทำจากโชยุ งา และน้ำตาลทราย วางลงบนข้าวสวยร้อนๆ โรยผักเครื่องเคียงอย่างเช่นต้นหอม ซึ่งกลิ่นหอมของงาช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี

ย่าน อ.ทสึคุมิ

ข้าวต้มปลาไท

ข้าวต้มปลาไท "อุเรชิโนะ" ถือเป็นเมนูเด็ดห้ามพลาดประจำร้านอาหารญี่ปุ่น "วาคาเอยะ" ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่สมัยโอโดะ อีกทั้งยังเปรียบได้กับรสชาติของเอโดะในเขตเมืองใต้ปราสาทคิทสึกิที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ร้านเลือกใช้ปลาไทสดแล่เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ หมักด้วยซอสงาสูตรพิเศษซึ่งถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่นของร้าน จัดวางบนหน้าข้าวสวย ราดน้ำชาต้มจากใบชาคิทสึกิ

ย่าน อ.คิทสึกิ

หอยนางรม

อ่าวโมริเอะ อ.คิทสึกิ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเลี้ยงหอยนางรมอันดับหนึ่งของจังหวัด ซึ่งหอยนางรมที่นี่มีลักษณะพิเศษคือรสหวาน ตัวใหญ กลิ่นคาวน้อย โดยท่านสามารถลิ้มลองเมนู "หอยนางรมย่าง" ที่ย่างกันสดๆหลังจับขึ้นจากทะเลในช่วงฤดูหนาวซึ่งถือเป็นฤดูจับหอยนางรม

ย่าน อ.คิทสึกิ

เมนูตะพาบน้ำ

กล่าวกันว่าทุกส่วนของตะพาบน้ำสามารถนำมาปรุงรับประทานได้ นอกจากนี้ตะพาบน้ำยังอุดมด้วยคุณค่าสารอาหาร ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานในฐานะอาหารบำรุงสุขภาพหลังฟื้นไข้ และยาชูกำลังมาตั้งแต่โบราณ ที่สำคัญคือคอลลาเจนสูง จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ตะพาบน้ำที่เพาะเลี้ยงในท้องถิ่นมีราคาไม่สูงนัก ท่านจึงสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งเมนูหม้อไฟ คาราอาเกะ หรือข้าวต้ม

ย่าน อ.อุสะ

ปลาดาบเงินคุนิซากิ

ปลาดาบถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อของอ.คุนิซากิ เพราะสามารถจับได้มากที่สุดในญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นปลาเนื้อขาว แต่กลับมีไขมันชุ่มฉ่ำทั้งตัวทำให้เนื้อนุ่มหวาน ผิดกับปลาดาบซึ่งจับได้จากแหล่งอื่น นอกจากเมนูซาชิมิหรือซูชิแล้ว ยังมีเมนูย่างเกลือ ข้าวหน้าปลาดาบต้มเค็ม และข้าวหน้าปลาดาบเทมปุระให้ลิ้มลองด้วย

ย่าน อ.คุนิซากิ

กุ้งกุลาดำฮิเมะชิมะ

กุ้งกุลาดำสดๆเนื้อแน่นหวานที่ได้ลองสักครั้งจะต้องติดใจ คือสินค้าขึ้นชื่อของหมู่บ้านฮิเมะชิมะ โดยชาวบ้านบนเกะแห่งนี้นิยมปรุงด้วยการย่างเกลือ ทอด หรือทำเป็นซาชิมิ แต่ถ้าอยากเพลิดเพลินกับความหวานของกุ้งแบบเต็มที่ ต้องซาชิมิเท่านั้น

ย่าน หมู่บ้านฮิเมะชิมะ

คาโบสึบุริ・คาโบสึฮิระเมะ

สินค้าประเภทปลาแบบใหม่ของจังหวัดโออิตะ ซึ่งได้จากการผสม "ส้มคาโบสึ" ที่มีอยู่มากในจังหวัดลงในอาหารปลา ทำให้เนื้อปลาบุริ (Amberjack) คงความสดใหม่จากกระบวนการทำงานต่อต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากส้มคาโบสึ รสหวานสดชื่น เนื้อแน่นกำลังดีไม่แข็งหรือเละเกินไป ส่วนปลาฮิราเมะ (ปลาลิ้นหมา) ไม่มีกลิ่นคาวจากไตปลา เนื้อข้างลำตัว (เอนกะวะ) รสสดชื่นไม่คาวติดลิ้น

ย่าน อ.ไซกิชิ อ.อุสุกิ อ.ทสึคุมิ

ซูชิ

ฮิตันซูชิ

ซูชิสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะซูชิอย่างเช่น "ทาคานะมากิ" (ซูชิโรลไส้ผักทาคานะ) ซึ่งอ.ฮิตะเป็นผู้คิดค้นคนแรก เน้นใช้ผักและผลไม้ในท้องถิ่นฮิตะเป็นเครื่องแทนอาหารทะเล ถือเป็นอีกเมนูซูชิที่ท่านจะได้ลิ้มรสความอร่อยที่แตกต่าง

ย่าน อ.ฮิตะ

ไซกิซูชิ

จุดเด่นของซูชินี้คือเครื่องที่ใช้ผลผลิตทางทะเลสดใหม่รสชาติเยี่ยม จากกระแสน้ำคุโระชิโอะเขตช่องแคบทะเลบุงโกะ ลองมาอิ่มอร่อยกับซูชิชั้นเลิศซึ่งเกิดจากการรังสรรค์ระหว่างฝีมือการปั้นของพ่อครัวซูชิกับเครื่องที่มีให้เลือกมากกว่า 50 ชนิด

ย่าน อ.ไซคิ

เมนูเส้น

เบปปุเรเมน (บะหมี่เย็นสไตล์เบปปุ)

เบปปุเรเมนหรือบะหมี่เย็นสไตล์เบปปุแบ่งออกเป็น 2 สายใหญ่ คือสายร้านที่เสิร์ฟเส้นแป้งสาลีคู่กับเส้นใหญ่ทำจากแป้งโซบะลวกไม่สุกมากรับประทานคู่กับน้ำซุปโชยุเย็น ใช้กิมจิกะหล่ำปลีเป็นเครื่องเคียง กับสายร้านเนื้อย่างที่เน้นเสิร์ฟเส้นเล็กเหนียวนุ่มคล้ายเส้นบุก รับประทานคู่กับกิมจิผักกาดขาว

ย่าน อ.เบบปุ

ฮิตะยากิโซบะ

เส้นยากิโซบะทอดกรอบและถั่วงอกต้นอวบเคี้ยวกรุบคือสไตล์จองฮิตะยากิโซบะ แม้ส่วนผสมจะค่อนข้างธรรมดา แต่รับรองว่ารสชาติของซอสรสหวานเค็มกำลังเหมาะไม่ซ้ำใครแน่นอน โดยในเขตอ.ฮิตะมีร้านที่เสิร์ฟฮิตะยากิโซะมากกว่า 20 ร้าน ถือเป็นเมนูท้องถิ่นที่นักชิมห้ามพลาด

ย่าน อ.ฮิตะ

บุงโกะทาคาดะโซบะ

ที่อ.บุงโกะทาคาดะซึ่งเป็นแหล่งผลิตโซบะขึ้นชื่อของจังหวัดโออิตะ มีช่วงเวลาที่สามารถทานลิ้มลองชินโซบะ (เส้นโซบะผลิตจากเมล็ดโซบะเพิ่งเก็บเกี่ยวและโม่เสร็จใหม่ๆ) 2 ครั้งต่อปี นั่นคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง แต่นอกเหนือจากฤดูกาลดังกล่าวก็ยังมีโซบะที่ทำจากแป้งโซบในท้องถิ่น 100% ให้ชิม โดยโซบะของแต่ละร้านจะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เพราะได้รับการรับรอง "ซันทะเทะ" (สามเดี๋ยวนั้น) ซึ่งประกอบด้วย "ฮิคิทะเทะ" (โม่เดี๋ยวนั้น) "อุจิทะเทะ" (ปั้นและซอยแป้งเดี๋ยวนั้น) กับ "ยูเดะทะเทะ" (ลวกเดี๋ยวนั้น) นำออกมาตีและต้มให้ได้อาหารที่สดใหม่) ซึ่งใช้

ย่าน อ.บุงโกะทาคาดะ

จิโกะกุมุชิ

จิโกะกุมุชิ

เมนูอาหารจานนึ่งที่แสนง่าย & ดีต่อสุขภาพ ทำจากผักตามฤดูกาล อาหารทะเล และเนื้อไก่นึ่งด้วยไอความร้อนจากน้ำพุร้อน เกลือที่ผสมอยู่ในไอน้ำในปริมาณเล็กน้อยคือเครื่องปรุงอย่างดีที่เพิ่มความอร่อยให้กับวัตถุดิบ หรือถ้าแค่หิวนิดๆก็สามารถแวะซื้อไข่ลวก ซาลาเปาไส้หมู พุดดิ้งที่ใช้ไอความร้อนจากบ่อนรกรองท้อง ระหว่างแช่ออนเซ็นหรือเดินเที่ยวชมเมืองมาชิมรสชาติดูได้

ย่าน อ.เบบปุ

จิโกะกุมุชิ พุดดิ้ง

จิโกะกุมุชิพุดดิ้ง คือขนมพุดดิ้งรสเข้มข้นตัดกับคาราเมลเคี่ยวจนเกรียมนิดๆที่ใช้ไอความร้อนจากออนเซ็นในการปรุงให้สุก ทำให้มีแร่ธาตุจากออนเซ็นผสมอยู่เต็มเปี่ยม นอกจากรสดั้งเดิมแล้ว ยังมี รสกล้วย รสคัสตาร์ด รสชาเขียวคาราเมล และรสกาแฟ หมุนเวียนตามแต่ฤดูกาล

ย่าน อ.เบบปุ

อื่นๆ

โคโคโนเอะ"ยูเมะ" เบอร์เกอร์

แฮมเบอร์เกอร์สูตรท้องถิ่นที่มีให้ลิ้มลองแค่เฉพาะต.โคโคะโนะเอะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นชื่อโคโคะโนะเอะ"ยูเมะ" ที่สำคัญคือมีจำหน่ายแค่เฉพาะร้านที่ผ่านการรับรองเท่านั้น ส่วนไส้ของแฮมเบอร์เกอร์นั้นมีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ไส้เนื้อวัวบุงโกะพร้อมผักกาดขาวและมะเขือเทศ ไส้ยากิโซบะ ไส้ชิกเก้นนัมบัง ไส้แฮมเบิร์กเต้าหู้ เป็นต้น

ย่าน ต.โคโคะโนะเอะ

ดังโงะจิรุ

หนึ่งในอาหารพื้นบ้านที่โด่งดังของจังหวัดโออิตะ ซึ่งพบเห็นได้ทั้งในร้านอาหารในบนโต๊ะอาหารตามครัวเรือน ส่วนผสมของซุปนี้มีได้แก่ดังโงะที่ทำจากแป้งสาลีนวดแล้วใช้มือแผ่เป็นชิ้นบางๆ เผือกหัวเล็ก แครอท เห็ดหอม โกโบ และน้ำซุปมิโสะ

ย่าน ทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัด

เหล้าโออิตะ

เอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดโออิตะคือมีการแบ่งพื้นที่ผลิตเหล้าชัดเจน โดยพื้นที่ตอนบนเป็นแหล่งผลิตเหล้าโชจู แต่ที่ขึ้นชื่อจริงๆคือโชจุที่กลั่นด้วยข้าวสาลี ซึ่งคนพื้นที่จังหวัดโออิตะนิยมบีบคาโบสึเล็กน้อยเพื่อมเพิ่มกลิ่นหอมก่อนดื่มโชจุชนิดนี้ 。

ย่าน ทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัด

คันตะคุง

มันเทศซึ่งเป็นผลผลิตเฉพาะของจังหวัดโออิตะที่มีความหวานมากกว่ามันเทศทั่วไปประมาณ 1.5 เท่า โดยใช้กรรมวิธีบ่มมันเทศเบนิฮารุกะเอาไว้เป็นเวลา 40 วันหลังเก็บเกี่ยว เมื่อปรุงให้สุกด้วยการเผา เนื้อจะกลายเป็นสีเหลืองทอง นุ่มละมุน

ย่าน อ.อุสุกิ อ.บุงโกะโอโนะ

คาโบสึ

ส้มคาโบสึซึ่งมีกลิ่นหอมสดชื่นและรสเปรี้ยวจัด ถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรของจังหวัดโออิตะที่เก็บเกี่ยวได้มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเปรียบได้กับเครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารของชาวโออิตะ ไม่ว่าจะบีบลงบนปลาย่างหรือซาชิมิ ใช้เป็นส่วนผสมของซอสปอนสึสำหรับรับประทานคู่กับหม้อไฟ หรือฝานใส่ในซุปมิโสะกับเหล้าโชจุ

ย่าน อ.อุสุกิ อ.ทาเคทะ

เห็ดหอม

จังหวัดโออิตะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเห็ดหอมแห้งอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งได้รับคำชื่นชมล้นหลามว่าดอกใหญ่เนื้อหนา กลิ่นหอม รสชาติอร่อยล้ำ สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย อาทิ เมนูต้ม เทมปุระ ทำเสต็กโดยย่างบนกระทะทั้งดอก ใช้เป็นเครื่องซูชิ ที่สำคัญคือมีคุณค่าสารอาหารสูง แคลอรีต่ำ จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะเป็นของขวัญของฝากอย่างยิ่ง

ย่าน ทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัด