จังหวัดโออิตะมีปริมาณน้ำพุร้อนธรรมชาติผุดขึ้นจากตาน้ำใต้ดินมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งมีแหล่งน้ำพุร้อนซึ่งเป็นที่รู้จักมากมาย อาทิ เบปปุ ยูฟุอิน นอกจากนี้ประเภทของน้ำพุร้อนยังมีหลากหลายให้เลือกแช่ หรือหากต้องการความแปลกใหม่อย่างเช่นบ่ออบทรายร้อน บ่อแช่โคลน และบ่ออบไอน้ำ ก็มีให้บริการ
บ่อกลางแจ้งของที่นี่มีเฉพาะบ่อรวมชายหญิง แต่สำหรับท่านที่เขินอายสามารถแช่เฉพาะบ่อในร่ม ที่มีบ่อแช่โคลนให้บริการ โดยบ่อในร่มจะมีฉากกั้นมิดชิด อีกทั้งทางเข้าก็แยะชายหญิงชัดเจน หรือหากต้องการพักค้างแรมก็มีส่วนห้องพักให้บริการ
บ่อน้ำร้อนที่มีวิธีการแช่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะต้องเริ่มต้นด้วยการนอนบนพื้นหินร้อนปูสมุนไพรที่เรียกว่า "เซคิโช" ให้เหงื่อออกสักเล็กน้อย ก่อนลงแช่น้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการต่างๆของร่างกาย
เบปปุเป็นที่รู้จักกันในฐานะเป็นเมืองตัวแทนด้านบ่อน้ำพุร้อนของประเทศญี่ปุ่น ทั้งในด้านจำนวนแหล่งน้ำพุร้อน และปริมาณน้ำพุร้อน โดยในเขตเมืองเบปปุมีหมู่บ้านน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง 8 แห่ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เบปปุ ฮัตโตะ(8 บ่อน้ำพุร้อนแห่งเบปปุ)
บ่อน้ำพุร้อนเบปปุเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟเบปปุ ซึ่งเปรียบเสมือนประตูหน้าด่านของเบปปุ ภาพที่เห็นคือบ่อน้ำพุร้อนทาเคะงาวาระที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 1879ภายนอกของอาคารดูสง่างามแบบย้อนยุคนี้เองที่ทำให้อาคารหลังนี้ปรากฏต่างสื่อต่างๆอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเบปปุ ส่วนภายในมีทั้งบ่อแช่น้ำและบ่อทรายร้อน ซึ่งแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการไม่ขาดสาย
เอคิมาเอะโคโต อออนเซ็นซึ่งตั้งอยู่หน้าถานีเบปปุ เป็นที่นิยมด้วยบรรยากาศแนวย้อนยุคนิดๆ อีกทั้งเดินทางสะดวกเพราะเดินเพียง 2 นาทีจากสถานี ภายในมีน้ำแร่แบบ "ร้อนมาก" กับ "ร้อนปานกลาง" ให้เลือกแช่ ส่วนชั้น 2 มีห้องส่วนตัวและห้องโถงให้นั่งพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องพักในราคาย่อมเยาว์
คังไคจิออนเซ็นคือย่านบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่บนเนินสูง มองเห็นอ่าวเบปปุอยู่เบื้องล่าง และเป็นที่ตั้งของโรงแรมซุกิโนะอิเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะโรงแรมชื่อดังแห่งเบปปุ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง "ทานะยุ" ของโรงแรมซุกิโนะอิมีขนาดโอ่โถงกว้างขวาง ท่านสามารถแช่น้ำพร้อมกับชมทิวทัศน์ของอ่าวเบปปุหรือเมืองเบปปุ และเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่เหมือนล่องลอยอยู่กลางทะเล
กล่าวกันว่าฮามะวากิออนเซ็นเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำพุร้อนเบปปุ เพราะมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดในจำนวนบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมดของเบปปุ อีกทั้งเป็นที่รู้จักในฐานะน้ำพุร้อนโอสถตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อค.ศ.1817 (สมัยเอโดะ) น้ำพุร้อนแห่งนี้เคยเป็นอันดับหนึ่งของน้ำพุร้อนทั่วประเทศ ส่วนปัจจุบัน "ยูโต เปีย ฮามาวากิ" ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยน้ำพุร้อนธรรมชาติ
เมียวบังออนเซ็น มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนโอสถมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจุดเด่นของที่นี่คือเป็นออนเซ็นที่มีกลิ่นกำมะถันแรงต่างจากที่อื่น และน้ำพุร้อนมีสีขาวขุ่น
ที่ยูโนะฮานะโกยะซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมียวบังออนเซ็น จะมีการเก็บ "ยุโนะฮานะ" หรือแร่ธาตุที่จับตัวแข็งบริเวณปากบ่อออนเซ็นจะใช้ดอกเกสรความร้อน เพื่อนำมาใช้เเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางหรือแชมพู
โฮริตะออนเซ็นเป็นที่นิยมในฐานะเป็นบ่อน้ำพุร้อนสำหรับคนเดินทางตั้งแต่สมัยเอโดะ(ค.ศ.1603 - ค.ศ.1868) สรรพคุณของกำมะถันและคุณภาพน้ำที่ช่วยให้ผิวเนียนลื่นช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้มาเยือน แน่นอนว่านอกจากบ่อในร่มแล้ว ที่นี่ยังมีบ่อกลางแจ้งที่ท่านสามารถเพลินตากับทิวทัศน์ของฤดูกาลทั้งสี่
ในเขตคันนาวะออนเซ็นมีโรงแรมที่พักอยู่มากมายหลายแห่ง และภาพไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากซอกตึกก็คือภาพคุ้นตาของเบปปุที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น นอกจากนี้คันนาวะยังมีเมนูอาหารขึ้นชื่อที่มีชื่อเรียกว่า "จิโกะกุมุชิ เรียวริ" ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากไอน้ำของบ่อน้ำพุร้อนนึ่งซึ่งผักและอาหารทะเลต่างๆ แต่ถ้าอยากลองปรุงจิโกะกุมุชิ เรียวริด้วยตัวเอง ก็ต้องแวะที่จิโกะกุมุชิ โคโบ คันนาวะ
สิ่งที่สร้างชื่อให้กับคาเมะกาวะออนเซ็นอันเงียบสงบซึ่งตั้งอยู่ติดทะเล ก็คือบ่ออบทรายร้อน "เบปปุไคเซ็น สุนะยุ" โดยที่นี่มีพนักงานบริการกลบทรายให้ โดยท่านสามารถเพลิดเพลินกับการอบทรายพลางฟังเสียงคลื่อนสาดซัด หรือหากมาเป็นหมู่คณะก็ไม่ต้องกังวล เพราะบ่ออบทรายร้อนแห่งนี้รองรับได้มากถึงครั้งละ 10 คน
ชิบะเซกิออนเซ็น บ่อน้ำพุร้อนเงียบสงบเรียบเชิงหุบเขา ที่นี่มีทั้งบ่อน้ำพุร้อนในร่ม บ่อกลางแจ้ง บ่ออบไอน้ำร้อน และบ่อส่วนตัวสำหรับครอบครัว เหมาะสำหรับแวะมาแช่น้ำให้หายเหนื่อยจากการเดินเขาตามเส้นทางที่จัดไว้ไม่ไกลนัก
บ่อน้ำพุร้อนที่ใครต่อใครรู้จัก มีทั้งบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะให้แวะมาใช้บริการระหว่างการท่องเที่ยว และบ่อน้ำพุร้อนภายในโรงแรมที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการนอนค้างคืนสบายๆ
ทิวทัศน์ของเทือกเขายูฟุที่มองเห็นจากบ่อน้ำกลางแจ้ง
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากยูฟุอิน โดยตลอดเส้นทางปูด้วยแผ่นหินที่สร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะมีเรียวคังและบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะปรากฏให้เห็นเป็นระยะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับท่านที่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองบ่อน้ำพุร้อน
ย่านโคโคะโนะเอะมีสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่เหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวชมเมือง และที่ห้ามพลาดคือสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น "สะพานโคโคโนเอะยูเมะ" กับ "ยามานามิ ไฮเวย์" ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถเที่ยวยอดนิยมของคิวชู
ของขึ้นชื่อประจำบ่ออาบน้ำรวมอุตะเสะยุ ก็คือสายน้ำที่ไหลลงมาจากความสูง 3 เมตรราวกับมังกรทะยานสู่พื้นเบื้องล่าง ซึ่งที่มาของคำว่าทสึจิยุออนเซ็นก็มาจากการเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ดีต่อการรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อนั่นเอง (ทสึจิ = กล้ามเนื้อ)
บ่ออาบน้ำรวมชายหญิง ซึ่งอยู่ในถ้ำตามธรรมชาติริมแม่น้ำ
บ่อน้ำพุร้อนในโรงแรมชื่อดัง ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาคุจู
บ่อน้ำแร่คาร์บอเนต ที่ให้ความรู้สึกเหมือนแช่อยูในโซดาเพราะทันทีที่จุ่มร่างกายลงในบ่อ จะมีฟองอากาศเล็กๆเกาะตามผิว ซึ่งน้ำแร่แบบเดียวกับที่พบในนางายุออนเซ็นเขตต.นาโอะอิริ อ.ทาเคดะนี้มีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง แต่เนื่องจากอุณหภูมิน้ำของที่นี่ต่ำกว่าที่อื่นๆในจังหวัด จึงควรเลือกมาแช่ในช่วงที่อากาศไม่หนาวเย็นนัก
บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งแบบรวมชายหญิงซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำ อันเลื่องชื่อของนางายุออนเซ็น บริเวณใต้สะพานที่อยู่ไม่ไกลนักมีมุมสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ถ้าจะลงแช่เวลากลางวันอาจต้องใช้ความกล้าพอดู
บ่อน้ำพุร้อนภายในโรงแรมที่พักย่านคุจูโคเก็น ซึ่งมีทั้งบ่อกลางแจ้งที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของแนวเทือกเขาคุจู และบ่อส่วนตัวให้เลือกใช้บริการ
ย่านออนเซ็นซึ่งมีแม่น้ำมิสึมิไหลผ่านใจกลางเมือง อีกทั้งยังโรงแรมและเรียวคังสำหรับแวะแช่น้ำให้หายเหนื่อย หรือจะเพลิดเพลินกับการล่องเรือยากาตะ เดินชมบ้านเมืองก็เข้าที
ย่านน้ำพุร้อนที่สวยงามโดดเด่น และมีโรงแรมที่พักตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำคุซุ โดยโรงแรมส่วนใหญ่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการออนเซ็นแม้ไม่พักค้างแรม หรือจะลองท้าทายกับออนเซ็นรวมชายหญิงกลางแม่น้ำก็เข้าที
